เหตุผลที่ครูให้เจ้าสาวจองคิวล่วงหน้า 3 เดือนขึ้นไปก่อนถึงวันงานแต่งงาน เพื่อที่เจ้าสาวจะได้มีเวลาเตรียมตัวทั้งเรื่องผิว ผม การดูแลหุ่นและสุขภาพโดยรวม ซึ่งจะมีการแนะนำ พูดคุยและให้คำปรึกษาที่ถูกต้องเกี่ยวกับการวางแผนเตรียมความพร้อมก่อนวันแต่งงาน โดยครูจะแนะนำให้ทำตามสเต็ปเตรียมตัวเป็นเจ้าสาวดังต่อไปนี้นะคะ

4 เดือนก่อนถึงวันแต่งหน้าเจ้าสาว

– เริ่มหาช่างแต่งหน้าเจ้าสาวและช่างผมเจ้าสาวที่มีสไตล์การแต่งหน้าที่เหมาะสมกับตัวเจ้าสาวเอง โดยดูจากโทนการแต่งหน้าและผลงานที่ผ่านมา แนะนำให้หาจากหลายๆที่และสอบถามจากเพื่อนๆ แต่ที่สำคัญคือเจ้าสาวต้องเป็นคนตัดสินใจเลือกด้วยตัวเองเพื่อให้ได้ช่างแต่งหน้าเจ้าสาวที่ชอบที่สุดนะคะ

– อย่าลืมจองคิวช่างแต่งหน้าเจ้าสาวที่ชอบทันที่เพื่อไม่ให้เสียคิวให้กับเจ้าสาวคนอื่น พูดคุยสอบถามรายละเอียดและข้อตกลงต่างๆกับช่างแต่งหน้าเจ้าสาวให้เรียบร้อย หากต้องการเทสแต่งหน้าเจ้าสาวให้แจ้งกับช่างถึงวันที่เทสและวันแต่งจริงเพื่อป้องกันความผิดพลาดเช่น เทสแต่งหน้าเจ้าสาวแล้วชอบแต่กำหนดวันจริงคิวช่างแต่งหน้าไม่ว่างก็ทำให้พลาดไปแบบน่าเสียดายทีเดียว

3 เดือนก่อนถึงวันแต่งหน้าเจ้าสาว
ถึงเวลาดูแลตัวเองอย่างจริงจังแล้วค่ะ เริ่มจากผิวหน้าที่ต้องบำรุงอย่างสม่ำเสมอ เลือกใช้สกินแคร์ที่เพิ่มความชุ่มชื้นเสริมให้ผิวแข็งแรงขึ้น และเพิ่มไลน์การบำรุงผิวด้วยการมาร์กหน้า ไม่ว่าจะเป็นมาร์กชีทหรือสลี้ปปิ้งมาร์ก หากเจ้าสาวคนไหนที่มีปัญหาเกี่ยวกับสิว ผด แพ้ต่างๆให้เข้าปรึกษาแพทย์เพื่อทำการรักษาในช่วงเดือนนี้นะคะจะได้หายทันเวลาสำคัญของเรา
สกินแคร์ที่แนะนำสำหรับเจ้าสาว: Atopalm Concentrate, Cerave, Curel

ในส่วนของผิวกาย หากจะสครับผิวก็สามารถทำได้ในช่วงเดือนนี้ แต่จะต้องทาครีมกันแดดเสมอป้องกันผิวไหม้ และแนะนำให้บำรุงผิวให้ชุ่มชื่นเป็นพิเศษ เวลาลงผิวตัวเจ้าสาววันงานแต่งงานผิวจะได้เนียนนุ่มและผ่องออร่ามากขึ้นค่ะ
ครีมบำรุงผิวที่แนะนำสำหรับเจ้าสาว: Jergens, Vaseline

ลำดับต่อไปคือเส้นผม ในเดือนนี้ให้เริ่มบำรุงผมเป็นพิเศษเผื่อสำหรับเจ้าสาวที่คิดจะทำสีผมจะได้ไม่เสียผมสวยๆไปนะคะ เจ้าสาวคนไหนที่คิดจะกัด ฟอกหรือย้อมสีผมใหม่ให้รอก่อนอย่าพึ่งทำในเดือนนี้เน้นไปที่การดูแลและเลี้ยงผมให้ยาวไว้ก่อน อย่าลืมหาทรงผมต่างๆที่ชอบไว้และพูดคุยกับช่างผมเจ้าสาว

รูปร่าง ต้องเริ่มวางแผนลดน้ำหนักตั้งแต่เดือนนี้แล้วล่ะค่ะเพื่อที่จะลดได้ทันวันแต่งงานโดยไม่ต้องอดอาหารหนักๆ

1 เดือนก่อนถึงวันงานแต่งงาน
หลังจากที่เราดูแลตัวเองมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว เดือนนี้จะต้องเตรียมพร้อมในส่วนปลีกย่อยอื่นๆ เช่น ถ้าเลี้ยงผมยาวไม่ทันและไม่สามารถทำทรงผมเจ้าสาวที่ชอบได้ ต้องลองคุยกับช่างผมเพื่อเตรียมแฮร์พีชหรือปรับเปลี่ยนทรงผมให้เหมาะกับตัวเจ้าสาว เดือนนี้ควรงดสครับ เลเซอร์ผิวต่างๆเพื่อป้องกันความผิดพลาดให้อาจทำให้ผิวแพ้หรือเแพ้ได้ค่ะ

2 อาทิตย์ก่อนถึงวันงานแต่งงาน
– ทำสีผมใหม่ แนะนำสีน้ำตาลธรรมชาติหรือขอรูปสีผมที่ควรทำจากช่างผมเจ้าสาว
– ฟอกสีฟัน
– ตรวจสอบให้มั่นใจว่าบำรุงผิวหน้าและผิวกายให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอ และทาครีมกันแดดเป็นประจำ
– แว็กขนหน้าแข้ง
– ทำสีเล็บใหม่

1 วันก่อนถึงวันแต่งหน้าเจ้าสาว
– สระผมโดยไม่ใส่ครีมนวดและทรีทเม้นท์ เป่าให้ผมแห้งก่อนนอน
– มาร์กชีทเพิ่มความชุ่มชื้นก่อนนอน
– งดแอลกอฮอล์ และของหวาน
– นอนหลับให้เพียงพอ
– คอนเฟิร์มช่างแต่งหน้าและช่างทำผม

จากนั้นค่อยปล่อยให้เป็นหน้าที่ของช่างแต่งหน้าและช่างทำผม โดยเจ้าสาวเพียงแค่ตื่นมาอาบน้ำรอแต่งหน้าเท่านั้นค่ะ ^^